คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าประจำเดือนของคุณกำลังจะมา?

How Do You Know Your Period Is Coming?

จะดีแค่ไหนหากเรามีลูกแก้ววิเศษที่ทำนายได้ว่าประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถทำนายได้ แต่ก็มีวิธีที่จะทำนายได้ว่าประจำเดือนจะมาเมื่อใด การสังเกตอาการก่อนมีประจำเดือนและติดตามรอบเดือนจะช่วยให้คุณทราบได้ว่าประจำเดือนกำลังจะมาถึงเมื่อใด ประมาณ 5-7 วันก่อนมีประจำเดือน คุณอาจเริ่มมีอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) อาการเหล่านี้พบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีประจำเดือนมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และอาจเป็นตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์ว่าประจำเดือนกำลังจะมาถึงHow Do You Know Your Period Is Coming?

ร่างกายของคุณจะเกิดอะไรขึ้นก่อนที่ประจำเดือนจะมา?

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราก่อนมีประจำเดือนอาจส่งผลกระทบต่างๆ มากมาย หากหลังการตกไข่ไม่เกิดการปฏิสนธิ ระดับของโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนจะลดลง การลดลงนี้อาจส่งผลต่อเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ควบคุมอารมณ์ของเรา ส่งผลให้ในช่วงไม่กี่วันก่อนมีประจำเดือน เรามักจะรู้สึกหงุดหงิดและวิตกกังวลมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเราได้

คุณรู้สึกอย่างไรกับวันก่อนถึงรอบเดือน?

วันก่อนถึงรอบเดือนอาจแตกต่างกันไปมากในแต่ละคน แต่ละคนอาจมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปในช่วงนี้ ในขณะที่ผู้หญิงบางคนอาจไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แต่บางคนอาจสังเกตเห็นอาการทางร่างกายและอารมณ์ต่างๆ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มักเกิดขึ้นหลังการตกไข่ และอาจรวมถึงอาการท้องอืด เต้านมเจ็บ อ่อนล้า หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน และอยากอาหาร สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือประสบการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และเป็นเรื่องปกติที่อาการเหล่านี้จะมีความรุนแรงและระยะเวลาที่แตกต่างกัน

อาการทั่วไปของการใกล้เข้าสู่รอบมีประจำเดือน

เมื่อรอบเดือนของคุณดำเนินไป คุณอาจพบอาการต่างๆ มากมายที่บ่งบอกว่าใกล้ถึงรอบเดือนแล้ว อาการเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:

  1. อาการปวดเกร็งที่ช่องท้อง: อาการปวดเกร็งที่ช่องท้องส่วนล่างเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนที่พบบ่อย เกิดจากการบีบตัวของมดลูกขณะที่เยื่อบุมดลูกหลุดลอกออก
  1. อาการท้องอืด: ผู้หญิงหลายคนมักมีอาการท้องอืดก่อนมีประจำเดือน ซึ่งลักษณะอาการคือรู้สึกแน่นและแน่นในช่องท้องเนื่องจากมีการกักเก็บน้ำไว้
  1. อาการเต้านมเจ็บ: อาการบวมและเจ็บบริเวณเต้านมอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะระดับโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น
  1. การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และอารมณ์แปรปรวน: ความผันผวนของฮอร์โมนอาจส่งผลต่อการผลิตเซโรโทนิน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด วิตกกังวล และซึมเศร้า
  1. ความเหนื่อยล้า: ระดับเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ลดลงอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและขาดพลังงาน
  1. การเกิดสิว: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนสามารถกระตุ้นการผลิตซีบัม ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิว โดยเฉพาะบริเวณคาง กราม และใบหน้า
  1. ปัญหาทางระบบย่อยอาหาร: การหดตัวของมดลูกอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ เช่น แก๊สในช่องท้องเพิ่มขึ้น คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องเสีย หรือท้องผูก
  1. อาการปวดหัว: การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจน อาจทำให้เกิดอาการไมเกรนและอาการปวดหัวในผู้หญิงบางคนได้

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าความรุนแรงและระยะเวลาของอาการเหล่านี้อาจแตกต่างกัน หากคุณพบอาการรุนแรงหรือรบกวน ควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการสนับสนุน

การจัดการอาการประจำเดือน:

เคล็ดลับเพื่อรอบเดือนที่ราบรื่น การรับมือกับอาการที่เกี่ยวข้องกับรอบเดือนอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่มีกลยุทธ์ที่คุณสามารถลองทำเพื่อช่วยบรรเทาความไม่สบายและจัดการกับรอบเดือนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเคล็ดลับบางประการมีดังนี้:

เคล็ดลับการจัดการอาการประจำเดือน

  1. รักษาสมดุลของอาหาร: สิ่งสำคัญคือการบำรุงร่างกายด้วยอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารที่มีไขมันสูงในช่วงมีประจำเดือน เน้นบริโภคผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี และไขมันดี เช่น ปลาให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและโซเดียม เพราะอาจทำให้ท้องอืดได้
  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการบวมและอาการอักเสบ และหลั่งสารเอนดอร์ฟินซึ่งจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้ ออกกำลังกายแบบที่คุณชอบ เช่น การเดิน โยคะ หรือว่ายน้ำ
  1. เตรียมสิ่งของจำเป็นในช่วงมีประจำเดือนไว้ให้พร้อม: พิจารณาพกกระเป๋าใบเล็กที่ใส่สิ่งของจำเป็นในช่วงมีประจำเดือนไว้ในกระเป๋าถือหรือเป้สะพายหลังของคุณตลอดสัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน รวมถึงกางเกงชั้นในป้องกันการรั่วซึมสำหรับช่วงมีประจำเดือน เช่น บิวติกินี่กางเกงชั้นในป้องกันการรั่วซึมสะดวกสบายและไม่สะดุดตา กางเกงชั้นในรุ่นนี้ไม่ต้องใช้แผ่นห่อหรืออุปกรณ์สอด จึงปกป้องได้ตลอดทั้งวัน เมื่อถึงรอบเดือน ให้เปลี่ยนกางเกงชั้นในแบบปกติเป็นกางเกงชั้นในสำหรับรอบเดือนแทน

สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ไว้ในกระเป๋าของคุณ:

- บิวติกินี่ กางเกงชั้นในกันรั่วซึมช่วงมีประจำเดือน

- เจลล้างมือ

- บิวติกินี่ กระเป๋าผ้าตาข่ายสำหรับเดินทางสำหรับเก็บชุดชั้นในที่เปื้อน โดยมีช่องแยกสำหรับใส่ชุดชั้นในที่สะอาด

  1. ติดตามรอบเดือนของคุณ: คอยติดตามรอบเดือนของคุณ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณคาดการณ์ได้ว่ารอบเดือนของคุณน่าจะมาเมื่อใดและเตรียมตัวให้พร้อม การทำความเข้าใจรอบเดือนของคุณมากขึ้นจะช่วยให้คุณจัดการกับอาการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โปรดจำไว้ว่าประสบการณ์การมีประจำเดือนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญคือต้องฟังร่างกายของคุณ ปรับกิจวัตรประจำวันตามความต้องการของแต่ละบุคคล และให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองในช่วงนี้ หากปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะช่วยบรรเทาอาการในช่วงมีประจำเดือนและใช้ชีวิตได้ราบรื่นขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

แสดงความคิดเห็น

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ ฟิลด์ที่จำเป็นจะถูกทำเครื่องหมาย *

Please note, comments must be approved before they are published